มันไม่ได้เป็นอะไรที่แปลก เมื่อหลายคนที่เข้ามาในธุรกิจเครือข่าย MLM มักจะต้องเจอกับอุปสรรคใน
การทำธุรกิจเครือข่าย MLM ไม่ว่าจะเป็นการขายของไม่ได้ การแนะนำคนไม่เป็น ชวนใครไม่มา ชวนมาไม่ทำ ทำไปก็หลับ คลาสสิกซะไม่มีหล่ะปัญหานี้ คนที่ทำทุกคนเจอกันหมดเลย ยกเว้นคนที่ยังทำไม่มากพอ แทบจะทุกคนก็บอกว่า “ ก็แน่หล่ะผมไม่ใช่แม่ค้าพ่อค้านี่ จะได้ขายของเก่ง ” “ ฉันไม่ได้เก่งเหมือนเขานี่จะได้ชวนคนแล้วเขามาด้วย ” อีกสารพัดที่คุณเองนั่นแหละคุ้นเคย ของยังงี้ถามว่าใครเกิดมาปุ๊บทำได้ปั๊บบ้าง คนนะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในสารคดีที่ออกจากท้องแม่มันไม่กี่นาทีเดินได้เลย บางตัววิ่งได้ด้วยซ้ำ ทำได้เพราะเจอไฟต์บังคับ ถ้าธรรมชาติของมันไม่สอนให้เอาตัวรอด ก็อาจตกเป็นดินเนอร์ของนักล่าก็ได้ คุณกับผมไม่ว่าใครในโลกก็เป็นคนธรรมดา เกิดมาก็ต้องแบเบาะเหมือนกันมาทั้งหมด ถ้าในอนาคตคุณเห็นเด็กคนไหนออกจากท้องแม่มาในวันแรกเดินเลย รีบเอากล้องวีดีโอถ่ายไว้เลยนะ แล้วเอามาลงยูทูบ รับรองดังระเบิดระเบ่อแน่นอน และการทำธุรกิจเครือข่าย MLM นี่ก็เหมือนกัน เมื่อคุณเริ่มเข้าวงการมาใหม่ มันก็ไม่ต่างจากเด็กแรกเกิดเช่นกัน ต้องเริ่มต้นประสบการณ์แบบหลังติดเบาะก่อน แต่ก็มีบางคนพยายามวิ่งเลยก็มีนะ โดยเฉพาะพวกชอบฝืนธรรมชาติ คือแบบไม่ยอมเรียนรู้อะไร แต่ขอข้าออกไปลุยก่อน ขอโทษนะอยากจะบอกคุณว่านอนกินนม กินกล้วยบดก่อนดีกว่า ยกขวดนมด้วยมือของตัวเองค่อยออกไปลุย แต่ทำไม..คนนั้น..คนโน้น..คนนี้เขาทำได้หล่ะ เห็นบางคนมาแค่เดินเดียวขึ้นเวทีรับตำแหน่งเฉยเลย คิดแบบไม่ต้องคิดอะไรมากนะ เขาผ่านประสบการณ์มาโชกโชน มาจากที่อื่นแล้วครับ หรือไม่ก็ประเภทแม่ทีม ตัวพ่อ อะไรประมาณนั้น แบบว่าย้ายค่ายมาแล้วเหน็บมายกยวง (อ้อ..แถมนิดนะเรื่องนี้เขาไม่บอกคุณหรอก) เป็นสูตรสำเร็จในการสร้างแรงเหวี่ยงไง เอาเป็นว่าคุณกับผมเป็นคนธรรมดา เรามาหาวิธีธรรมดา ง่ายๆ ทำแล้วมันได้ผลดีมั้ย ไม่ต้องให้มันวิจิตรพิศดารอะไรหรอก เรื่องของธุรกิจ MLM มันแทบจะไม่ได้มีอะไรมากมายเลย
เรื่องของเรื่องมีแค่ขอให้มีคนที่เป็นสมาชิก
ซื้อกินซื้อใช้ ขยายองค์กรคนทำธุรกิจให้ได้ ช่วยคนที่ตามมาให้สำเร็จเท่านั้นเอง…จริ๊งจริง
ถ้าคุณเดินตามพิมพ์เขียวของความสำเร็จ สร้างแพลทฟอร์มใหม่ของคุณขึ้น อ้อ สมัยนี้ต้องสร้างเครื่องมือตัวช่วยให้สมาชิก หรือทีมงานของคุณด้วย ซึ่งปกติผมจะทำแบบนี้ แล้วเรื่องที่ว่ายากที่คุณเคยเจอมาจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และสนุก ที่เรียกได้ว่า “ มันส์ใหญ่มาก ” เลยหล่ะ
ความจริงแล้วผมเชื่อว่ามีหลายคนมากๆ ที่เคยผ่านประสบการณ์การทำธุรกิจเครือข่าย MLM มาอย่างแน่นอน ธุรกิจเครือข่ายขายตรงหลายชั้น หรือที่บางคนเรียกกันติดปากว่า MLM หรือจะเรียกว่าอะไรก็ตามแต่ สรุปแล้วมันก็คือ การทำตลาดรูปแบบหนึ่งนั่นเอง แต่เสน่ห์ที่แท้จริงของธุรกิจเครือข่ายที่แท้จริงที่หลายคนหลงใหลนั่นก็คือ ผลลัพธ์ของความสำเร็จนั่นเอง คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาทำธุรกิจเครือข่าย MLM จะเน้นหนักเรื่องของวิธีการดำเนินธุรกิจ ซึ่งรูปแบบเดิมๆ ก็ประสบความสำเร็จกันอยู่แล้ว นั่นก็คือการชวนคนให้เข้ามาร่วมทำธุรกิจ หรือการขยายองค์กรให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในรูปของนักธุรกิจ หรือคนใช้สินค้าก็ตาม ที่ผ่านมาก็เน้นไปชวนกันตรงๆ ถึงบ้านถึงที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ไหนก็สุดแล้วแต่ ผมขอเรียกมันว่าการทำงานแบบออฟไลน์ เนื่องจากตอนที่ธุรกิจเครือข่ายหรือ MLM เกิดขึ้นมาในโลกครั้งแรก จะใครเป็นคนต้นคิดก็แล้วแต่ ผ่านมานานเท่าไรไม่ต้องไปใส่ใจมาก ที่แน่ๆ เวลานั้นยังไม่มีการสื่อสารบนโลกออนไลน์เกิดขึ้นมาอย่างแน่นอน เพราะมันนานมาแล้วมาก เครื่องมือที่ดีที่สุดนั่นก็คือ การออกไปนำเสนอนั่นเอง ณ เวลานั้นไม่มีอะไรดีไปกว่าวิธีนี้แล้ว แต่ด้วยโลกแห่งเทคโนโลยีที่ พัฒนาเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง อินเตอร์เน็ตก็ได้ถือกำเนิดมาบนโลกใบนี้ ใครจะคิดค้นเป็นคนแรก ผมก็ไม่ได้จำ แต่ต้องขอขอบคุณที่ได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาให้โลกได้ไร้พรมแดนในเรื่องของการติดต่อ แต่นักธุรกิจเครือข่ายส่วนใหญ่ในยุคเริ่มต้นของอินเตอร์เน็ตก็ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าอาจจะเป็นเพราะไม่รู้ว่าจะเอามาใช้ประโยชน์ได้ยังไงก็เป็นได้ หรือจะเป็นเพราะเป็นเทคโนโลยีที่ยังเอื้อไม่ถึงก็ว่าได้ ก็คงจะไม่นานหลังจากยุคอินเตอร์เน็ตเริ่มต้นขึ้น ผมเชื่อเหลือเกินว่าต้องมีนักธุรกิจเครือข่ายส่วนหนึ่งได้เล็งเห็นประโยชน์ที่คนทำธุรกิจเครือข่าย MLM ส่วนใหญ่บนโลกไม่ได้นึกถึง จึงได้ทำ MLM Online ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างองค์กร แต่ว่าจะทำเป็นธุรกิจเครือข่ายออนไลน์ 100% ได้หรือไม่ เรื่องนี้ยังคงเป็นถกเถียงกันอยู่เป็นวงกว้างว่าสามารถทำได้จากที่บ้าน หรือที่ไหนๆ บนโลก โดยไม่ต้องออกไปประชุม ไม่ต้องออกไปเจอผู้คนเลยได้หรือไม่ คำตอบส่วนหนึ่งลึกๆ ในใจคุณคงตอบได้ใช่มั้ย ?
เพราะเป็นคำถามที่ผมถูกถาม และเมื่อก่อนผมก็สงสัยอยากรู้จากใครหลายคนเหมือนกันว่า อะไรเป็นจุดตัดสินใจในแต่ละคนที่เลือกเปลี่ยนมาทำธุรกิจเครือข่ายขายตรงออนไลน์กับบริษัทนั้นๆ คุณเคยคิดอย่างนี้เหมือนกันมั้ยครับ จะยังไงก็ตามก่อนขยายความไปมากกว่านี้ ผมก็อยากจะเขียนถึงจุดตัดสินใจในการเลือกธุรกิจเครือข่าย MLM ที่ผมทำไว้เหมือนกัน อย่างแรกเลยผมดูว่าบริษัทนั้น มีสินค้าอะไรหรือบริการอะไร และกำลังนำเสนออะไรอยู่ ไม่ว่าสินค้าหรือบริการ ยังไงก็ต้องมี ไม่มีไม่ได้เลยครับ ธุรกิจที่คุณทำอยู่ลองตัดสินค้าออกไปซิครับมันจะเป็นอะไร แทบจะทุกที่ของธุรกิจเครือข่าย MLM จะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเหนือกว่าสินค้าตามท้องตลาด ก็แน่ซิครับถ้าเหมือนกันใครๆ ไปซื้อข้างนอกไม่ดีกว่าเหรอ แต่ก็มีนะครับในบางที่พูดตรงๆ เลยว่าเอาของธรรมด๊า ธรรมดา มาโอเว่อร์เคลมซะเลิศเลอกันไปเลย พูดง่ายๆ ก็คือขอแค่มีสินค้ามาประดับเท่านั้น จริงๆ ก็ไม่เน้นกันเลย ไปเน้นเล่นแผนกันอย่างเดียว แบบนี้อันตรายครับ ว่าแล้วผมก็ยกตัวอย่างตามประสาคนที่โดนแทกเป็นประจำ ขณะที่เล่นเฟสบุ๊คด้วยน้ำผลไม้มหัศจรรย์จากป่าหิมพานต์ เอ๊ยไม่ใช่ จากป่าทวีปไหนก็จำไม่ได้ ลดความอ้วนได้ รักษาโรคได้ รักษาสิว เห็บ หมัด ได้หมดเลย แม่เจ้ามันช่างสุโค่ยครอบจักรวาล และทางช้างเผือกจริงๆ แต่พอผมแกล้งแหย่ทักคุยเขาทางเฟสบุ๊คเขาบอกไม่ต้องสนใจสินค้าหรอก เอาจะทำตังค์ให้มากให้ได้เร็วก็พอ อ้าว…แล้วมันจะมาแท็กบอกสรรพคุณน้ำม่วงหมัศจรรย์หาพระแสงของ้าวกันปะทำไมหว่า เอาเป็นว่าถ้าสินค้าซื้อซ้ำ ซื้อกิน ซื้อใช้ได้เป็นประจำ คุณภาพดีกว่าของทั่วไปในราคาที่ยุติธรรมก็โอแล้วหล่ะครับ ต่อมาผมก็ดูบริษัท และเจ้าของว่ามีโปรไฟล์ยังไง มีเรื่องราวที่ผ่านมาให้เห็นบ้างมั้ย ก็แน่ละซิครับว่าในเมื่อเขานำเสนอเราให้เข้าไปเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกับเขา เราเองนี่แหละก็ต้องดูย้อนกลับไปบ้าง เจ้าของบริษัทหลายที่มีภูมิหลัง หรือประวัติความสำเร็จดีเยี่ยมเลยนะครับ แต่ไม่ใช่ในธุรกิจเครือข่าย MLM หรือพูดง่ายๆ เขาหรือบริษัทของเขา ไม่เคยสัมผัสกับธุรกิจขายตรง MLM มาก่อน ประสบความสำเร็จในธุรกิจส่งออกบ้าง ประสบความสำเร็จในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้าง เป็นเจ้าของห้างบ้าง ฯลฯ แต่อยากมีธุรกิจเครือข่าย MLM เป็นของตัวเอง ยังไม่เท่าไรนะครับ บางบริษัทก็เป็นอดีตแม่ทีมจากที่อื่นหาทุนมาเปิดบริษัทเอง แหม..ทำไมจะไม่ได้ทุนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแค่ 1 ล้านก็เปิดได้แล้ว เล่นบทเจ้าของเองซะเลยทำให้คนอื่นโตมาเยอะแล้ว (ประเภทหลงตัวเองมักคิดแบบนี้) ยังไม่พอขอมีรหัสตัวเองในบริษัทตัวเองที่เปิดขึ้น แต่อยู่ในชื่อของนอมินี อะไรจะเกิดขึ้นครับคิดดูเล่นๆ กันก็พอว่า บริษัทจะสนับสนุนสายงานไหนมากกว่ากัน ตรงนี้ให้ไปหาดูกันเอาละกัน
ทีนี้มาดูกันถึงว่าบริษัทนั้นๆ สายป่านยาวแค่ไหนดีกว่า เพราะเจ้าของบริษัทอยู่ในโซนทะเลแดงเดือดแน่นอน ซึ่งต้องมีการแข่งขันกับบริษัทขายตรงอื่นๆ แน่นอนใครๆ ก็ประกาศเป้าหมายเพื่อเป็นกำลังใจให้นักธุรกิจทั้งนั้นแหละ แน่นอนว่าทุนในการทำบริษัทรวมทั้งการดำเนินการไม่น้อยแน่นอน ในขณะที่หลายบริษัทบอกสบาย แต่บางบริษัทขอรอยอดธุรกิจในแต่ละเดือนตลอด ชัวร์ครับ เขาไม่บอกคุณหรอกว่าสายป่านบริษัทเขายาวแค่ไหน เดี๋ยวจะใจเสียกันซะเปล่าๆ แผนการตลาดที่เรียกติดปากกัน จริงๆ น่าจะเรียกกันว่าแผนการจ่ายผลตอบแทนซะมากกว่า โอเค..ผมขอเรียกสั้นๆ ว่า “ แผน ” ละกัน เรื่องนี้แหละครับที่คนทำธุรกิจขายตรง MLM หรือเครือข่ายเอาไปเล่นกันมาที่สุด ถึงขนาดว่าบางทีมบอกว่าไม่ต้องไปสนใจสินค้าเลย มาโฟกัสเรื่องแผนอย่างเดียวก็พอ ผมเคยได้ยินยังพาลไปคิดว่า “ ตกลงเขาจะทำธุรกิจเครือข่าย MLM หรือมาเล่นมันนี่เกมกันแน่ ” พูดถึงแผนแล้วน่าปวดหัว อะไรกันนักหนาไม่รู้ แผนชั้นดีกว่าแผนแก สุดยอดแล้วไม่มีใครเทียบได้ ผ่านมาเกือบร้อยปียังไม่เคยเปลี่ยนแผนเลย ว่ากันไปครับที่แน่ๆ มีประเด็นถกกันว่า แผนสแตร์สเต็ปถึงได้ช้าแต่ก็มั่นคง แผนไบนารี่จ่ายเยอะจ่ายเร็ว จริงๆ แล้วในแต่ละฝ่ายก็ด่ากันเละ แหละครับ เอาจุดอ่อนมาของแต่ละฝั่งมา ขยายความแล้วขยี้กัน เคยฟังจากปากคนที่เรียกตัวเองว่า “ อาจารย์ ” (จริงๆ ไม่ใช่อาจารย์จากสถาบันไหนหรอก ลูกทีมเขาสถาปนาให้) ฟังแล้วเซ็งเป็ด เซ็งไก่ เซ็งห่านเลย เขาเคยผ่านมาทุกแผนแล้ว เรียกว่ามีรหัสแทบจะทุกค่าย พอออกมาจากที่เดิมก็ว่าแผนที่นั่นมันไม่ดี มันสองขามหาประลัย มันโอเว่อร์เปย์ งงเหมือนกันนะ แล้วตอนนั้นท่านทำอยู่น่ะ ทำไมคิดไม่ได้ครับ เขาก็พูดต่อว่า แผนที่ผมทำตอนนี้มันเจ๋งสุดแล้ว พีวี 1 ต่อ 1 เลยนะ จ่ายเยอะมาก แต่กระซิบตอนท้ายเบาๆ ว่า ไอ้ต่อ 1 ตัวหลังน่ะ 1 เหรียญสหรัฐนะไม่ใช่บาทไทย นั่นไง! งั้นมันไม่ใช่ 1 พีวีต่อ 1 บาทแล้ว แต่เป็น 1 พีวี ต่อ 35 บาทโดยประมาณ โอ้โห…โหดซ่อนรูปจริงๆ นะอาจารย์ ใครที่ทำอยู่ของบริษัทต่างประเทศในยุคหลังๆ นี้ถามกันให้ดีก่อนนะครับว่าแปลงค่าเงินกันหรือยัง ซึ่งจะเป็นการกันไว้ดีกว่าแม้จะเป็นรายละเอียดของธุรกิจ
มาดูกันต่อให้ชัดนะครับว่าเป็นเสือที่คลุมด้วยขนแกะหรือเปล่าหนอ เกี่ยวกับเรื่องทีมงาน เครื่องมือและระบบของทีม ชี้เป็นชี้ตายได้เลยนะครับว่า เราจะสามารถฝากผีฝากไข้ เอ๊ย...ฝากอนาคตได้หรือเปล่า เพราะประสบการณ์ผมก็เจอทั้งที่ดี และก็แสบป่วนไส้มาแล้ว ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ขึ้นชื่อว่าคนก็ต้องมีดี และแบบที่ยังไม่ถึงขีดที่เข้าขั้นว่าดี อัพไลน์ที่ดีผมขอน้อมคาระเลยว่าเขาเหล่านั้นทุ่มเทเพื่อความสำเร็จของทีมจริงๆ แต่ไม่พูดถึงมากนะครับ เอาเรื่องแสบๆ ดีกว่า ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายนะครับ แต่ไว้เตือนนักธุรกิจมือใหม่ที่ยังไม่เคยเจอ ตรงนี้จึงทำให้เกิดความกังวลใจขึ้นมาต่อธุรกิจเครือข่าย MLM ผมเข้าใจครับว่า ในการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมโดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์อะไรสักอย่างหนึ่งนั้น คุณควรต้องคิด ต้องศึกษา ต้องหาความรู้มากมาย เพื่อตอบโจทย์ในใจของคุณเอง และนี่คือความกังวลที่ผมขอสรุปไว้อย่างง่ายๆ สิ่งที่คุณมีความกังวลอยู่ในใจของคุณ
มีความกังวลว่า จะมีเงื่อนไขผูกมัดเช่น รักษายอดส่วนตัว
- มีความกังวลว่า ไม่มีประสบการณ์
- มีความกังวลว่า ต้องเดินทางไปอบรม
- มีความกังวลว่า ไม่มีเวลามากพอ
- มีความกังวลว่า ตัวเองไม่มีความรู้ในการทำธุรกิจเครือข่าย MLM
- มีความกังวลว่า จะต้องลงทุนมาก หรือมีค่าใช้จ่ายหมกเม็ดต่างๆ
- มีความกังวลว่า ไม่รู้จะไปชวนใครหาลูกค้าที่ไหนไม่รู้จักคน
- มีความกังวลว่า พูดไม่เก่ง
- มีความกังวลว่า ตลาดจะเต็ม จะโตไม่ได้ ไม่แข่งกันเองเหรอ มีคนทำเยอะแล้ว?
- มีความกังวลว่า ไม่มั่นใจว่าจะมีรายได้ดีจริง ที่อื่นทำง่ายรวยไวกว่า หรือป่าว
- มีความกังวลว่า ขายของไม่เก่ง ขายไม่เป็น เป็นงานขายหรือป่าว
- มีความกังวลว่า ตัวเองมีเรื่องจุดด้อยที่แย่มาก ไม่สามารถพัฒนาได้
ทั้งหมดนี้คือ สิ่งที่คุณกังวลอยู่ในใจ ผมเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นครับ เพราะที่แรกเริ่มต้นใหม่ๆ ผมก็เป็นเช่นนี้เหมือนกันครับ แต่ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจเครือข่าย MLM มานานหลายปี และตอนนี้ก็ได้มาให้เวลากับธุรกิจเครือข่าย MLM ออนไลน์ ด้วย ทำให้ผมเข้าใจรูปแบบใหม่นี้มากขึ้นครับว่า มันสามารถทำได้ดีกว่าอย่างแตกต่างกันสิ้นเชิง เราลองมาดูตัวอย่างธุรกิจเครือข่าย MLM แห่งหนึ่งของไทยที่ผมขอเอาเป็นกรณีศึกษาเรื่องความกังวลให้อ่านนะครับ
- ความกังวลว่า จะมีเงื่อนไขผูกมัด เช่น รักษายอดส่วนตัว แต่ของบริษัทแห่งนี้ไม่บังคับรักษายอด
ส่วนตัว คุณซื้อกินใช้ตามธรรมชาติ ของหมดก็ซื้อ ไม่หมดก็ยังไม่ต้องซื้อ ไม่บังคับ
- ความกังวลว่า ตัวเองไม่มีความรู้ในการทำธุรกิจ สิ่งเป็นกันมากๆ ครับ คุณเคยได้ยินคำๆ นี้ "ก้าวที่กล้า กล้าที่ก้าว" หรือเปล่าครับ หมายความว่า ก้าวแรกคุณยังไม่กล้าที่จะก้าวมา แล้วก้าวที่สองจะมีได้อย่างไรครับ ก้าวแรกคุณกล้าทำ ก้าวต่อไปคุณก็จะกล้าที่จะก้าวไปได้ครับ
- ความกังวลว่า จะต้องลงทุนมาก หรือมีค่าใช้จ่ายหมกเม็ดต่างๆ บริษัที่นี่ไม่มีหมกเม็ดครับ สมัครครั้งเดียวตลอดชีพ ไม่ว่าคุณจะรักษายอดหรือไม่ก็ตาม หรือไม่ได้ซื้อสินค้าเป็นเวลาหลายปีก็ตาม สภาพเป็นสมาิชิกของคุณก็ยังอยู่ นี่คือ ลิขสิทธิ์เครือข่าย หนึ่งเดียวของโลก สินค้าคุณใช้ยังไม่หมดก็ยังไม่่ต้องซื้อครับ เมื่อไหร่สินค้าคุณหมด ก็ค่อยซื้อมาใช้ครับ ค่อยๆ เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ เหมือนคุณใช้ชีวิตตามปกติของคุณ
- ความกังวลว่า ไม่รู้จะไปชวนใครหาลูกค้าที่ไหนไม่รู้จักคน ปัจจุบันเทคโนโลยีทางอินเตอร์เน็ต ก้าวหน้าไปมากแล้วครับ หมดปัญหาในการหาผู้มุ่งหวังครับ ด้วยการสร้างเว็บไซต์ไว้ เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาหา มาศึกษาเอง ซึ่งมีถึง 3 รูปแบบให้ใช้งานทั้งของส่วนกลาง(บริษัท) ส่วนตัว(บล็อกแนะนำ) และส่วนทีมงาน(ขายของ)
- ความกังวลว่า พูดไม่เก่ง ปัจจุบันคุณพูดไม่เก่ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณไม่ได้ครับ เก่งกับได้ ต้องเขาใจก่อนว่า พูดแต่เนื้อความ เนื้อหาที่ถูกต้อง เป็นจริง ไม่ต้องไม่ต้องพูดเก่งหรอกครับ อยู่ที่การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะพูดครับ
- ความกังวลว่า ตัวเองไม่มีความรู้ในการทำธุรกิจ เรื่องไม่มีความรู้ทางธุรกิจมาก่อน นี่ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะว่าที่เรามารวมกลุ่มกันตรงนี้ เพื่อหาความรู้ครับ หาทีมงาน หาที่ปรึกษาที่จะช่วยสอนเรา แนะนำเรา หากเราเก่งอยู่แล้วรู้อยู่แล้ว เราจะหาทีมหาคนช่วยสอนเราทำไมจริงไหมครับ สมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายขายตรงผู้ถึงเรื่องสมัคร ง่ายมาก เดินเข้าศูนย์ธุรกิจก็สมัครได้ แล้ว มีคนมากมายอยากเป็นผู้แนะนำเรา แต่สิ่งที่หายากคืออะไร ทราบไหมครับ? ก็ทีมงาน หรือคนที่เป็นผู้นำนั้นจะมีความรู้มากพอที่จะช่วยเราให้กลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จให้ได้ไหม หรือได้เงินล้านกับเขาได้หรือเปล่า นี่หล่ะหากยากที่สุด
- ความกังวลว่า ขายของไม่เก่ง ขายไม่เป็น เป็นงานขายหรือป่าว เรื่องขายของไม่เก่ง ไม่ใช่ปัญหาครับ เพราะคุณต้องขายให้กับตัวเองได้ก่อนครับ หากคิดกันจริงๆ แล้วเดือนๆ นึง คนหนึ่งคนจะขายได้เองสักเท่าไหร่ จริงไหมครับ การขายเก่งหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่แต่ละคน บางคนเขาขายเก่งก็ดีไป มีรายได้เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาจะไม่สามารถรวยได้จากการขายเพียงอย่างเดียวแน่นอนครับ ฟันธง!
- ความกังวลในเรื่องจุดด้อยของตัวเอง ดึงจุดเด่นของเขาขึ้นมาให้เห็นเป็นข้อได้เปรียบคนเราส่วนมาก มักกังวลถึงข้อด้อยของตนเอง กังวลมากเสียจน มองข้ามจุดเด่นของตัวเองไปเสียหมดสิ้น คนเรามีจุดเด่นในตัวเองครับ ดึงมันออกมาใช้ ให้เกิดประโยชน์เสียบ้าง เพราะจุดเด่นต่างๆนี้ จะกลบจุดด้อยไปเอง
ทีนี้คุณพอเข้าใจแล้วนะ ถ้าเกิดทำอย่างไม่รู้...เป็นใครก็เกิดความกังวลกันทั้งนั้น ผมเชื่อว่า หลังจากอ่านจบตอนนี้ คุณก็จะหมดความกังวลไปได้ในที่สุดเหมือนผมที่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้วครับ พบกันใหม่ครั้งหน้า
